ว่าด้วยความรู้เกี่ยวกับความจริง
กระบวนการ และจริยธรรม
ความรู้เป็น 3 ลักษณะใหญ่
คือความรู้เกี่ยวกับความเป็นจริง และความรู้เกี่ยวกับกระบวนการ และความรู้ว่าสิ่งใดดี สิงใดไม่ดี
ความรู้เกี่ยวกับความเป็นจริงคือ “การรู้อะไร”
และ “การรู้ว่าทำไม” ประกอบด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง
ข้อมูลข่าวสาร รายละเอียดของปรากฎการณ์ความเหมือน
ความแตกต่าง ความสัมพันธ์ของปรากฎการณ์
และสาเหตุของปรากฎการณ์ เช่น รู้ว่ารัฐสภาไทยประกอบด้วยสมาชิกกี่คน
มีกี่ประเภท เป็นหญิงกี่คน ชายกี่คน
มีอำนาจหน้าที่เหมือนกันและแตกต่างกันในเรื่องใดบ้าง ทำไมประเทศไทยต้องมีรัฐสภา
ทำไมสมาชิกบางคนทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิผล บางคนทำหน้าที่ไร้ประสิทธิผล เป็นต้น
ความรู้เชิงกระบวนการคือ “การรู้ว่าทำอย่างไร”
เป็นความรู้ที่มีรากฐานจากการปฏิบัติและเกี่ยวข้องกับทักษะ เช่น การขับรถ การเขียนบทความ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
การเขียนกฎหมาย
บ่อยครั้งที่ผู้คนจะไม่ตระหนักถึงความรู้ประเภทนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วความรู้ทั้งสองแบบต่างเสริมซึ่งกันและกัน เช่น ส.ส.
รู้กระบวนการออกกฎหมายว่ามีขั้นตอนอะไรบ้างและสามารถเขียนออกมาได้อย่างชัดเจน
แต่วิธีการในการผลักดันให้ร่างกฎหมายจนกระทั่งออกมาบังคับใช้นั้นเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและอ่อนไหว
และเกี่ยวพันกับหลายฝ่าย จน ส.ส.ไม่สามารถเขียนออกมาเป็นรายละเอียดได้
ความรู้เชิงกระบวนการมีสามขั้นตอนคือ ขั้นตอนการรับรู้ ขั้นตอนการเชื่อมสัมพันธ์ และขั้นตอนอัตโนมัติ
ขั้นตอนการรับรู้นั้น
ปัจเจกบุคคลส่วนใหญ่ต้องไปเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา เช่น
บุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์จะประสบกับปัญหาการพิมพ์ผิดอยู่บ่อยครั้ง หรือ
นักศึกษาพยาบาลอาจประสบปัญหาการใช้วิธีการดูแลผู้ป่วยที่ผิดพลาดต้องคอยแก้ไข การแสวงหาความรู้ในขั้นนี้ยังคงต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับความจริง
ดังนั้น บุคคลอาจพบข้อเขียนประเภทรายการ “ทำอย่างไร”
ในขั้นนี้
ขั้นการเชื่อมโยง
ความรู้เกี่ยวกับความจริงที่ได้รับการนำไปเชื่อมโยงกับการปฏิบัติอย่างราบรื่นมากขึ้น
การปฏิบัติก็เป็นเป็นอิสระและมีความผิดพลาดน้อยลงกว่าขั้นแรก
และท้ายที่สุดคือขั้นอัตโนมัติ
เป็นขั้นที่บุคคลสามารถใช้ทักษะได้อย่างชำนาญการ
ดูกลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติและมีข้อผิดพลาดน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย
ส่วนความรู้ทางจริยธรรม
เป็นความรู้ว่าการปฏิบัติแบบใดของมนุษย์เป็นสิ่งที่ควรทำ การปฏิบัติใดเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ โดยรู้ว่าการกระทำของตนเองมีพื้นฐานจากเหตุผลจริยธรรมแบบใด
เช่น
ทำเพราะต้องการให้เกิดประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่ ทำเพราะเป็นหน้าที่ ทำเพราะความยุติธรรม และทำเพราะเป็นสิทธิมนุษยชน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น