การปฏิรูปการศึกษาไทย: ข้อเสนอ 6 ประการ
พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต
ประเด็นแรกคือการสร้างเสถียรภาพและความต่อเนื่องของนโยบาย
การทำเช่นนี้ได้จะต้องแยกการศึกษาออกจากการเมือง
เพราะการเมืองมีความไม่แน่นอนสูงและเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง กลุ่มคนที่จะมาดูบริหารการศึกษาควรมาจากกลุ่มที่มีวิสัยทัศน์ทางการศึกษาที่ชัดเจน
มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามพันธกิจในการพัฒนาการศึกษา
มีการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์อย่างเป็นระบบอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและอยู่บนฐานของข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและครบถ้วน
ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์จะต้องมีอย่างน้อย 3 ชุด
ชุดแรกเป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่กำหนดกรอบทิศทางการศึกษาของประเทศในภาพรวม ชุดที่ 2 เป็นคณะกรรมการบริหารยุทธศาสตร์
ที่จักต้องทำหน้าที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ และชุดที่ 3 เป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในจังหวัดหรือพื้นที่
โดยทั้ง
3
ชุดทำจะต้องดำเนินงานที่บูรณาการสอดประสานกันทั้งระบบ
และมีมาตรการในการกำกับติดตามและการประเมินผลอย่างชัดเจน
ประเด็นที่สอง
การบริหารและจัดการศึกษาต้องผลักดันให้เกิดการกระจายอำนาจอย่างต่อเนื่องและเป็นจริงให้ได้
โดยมีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่การกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสถานการศึกษา
ทั้งนี้จะต้องมีมาตรการที่ทำให้องค์การที่รับการกระจายอำนาจมีความรับผิดชอบต่อสาธารณะที่ชัดเจน
เช่น ให้องค์การบริหารส่วนตำบลตำบล เทศบาลและโรงเรียนแต่ละแห่งจัดแสดงและนำเสนอข้อมูลที่สำคัญทางการศึกษาต่อสาธารณะและให้มีการประชาคมเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว เช่น ข้อมูลคะแนนสอบระดับชาติของนักเรียน
อัตราการออกกลางคัน การสอบเข้าเรียนต่อในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น
เพื่อให้สาธารณะได้รับทราบและร่วมกันเสนอแนวทางในการปรับปรุงเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ของตนเอง
ในการนี้แต่ละโรงเรียนและแต่ละองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
อาจจัดเป็นงานประจำปีในรูปการประชุม จัดนิทรรศการ สัมมนา หรือเสวนา
เกี่ยวกับการศึกษาของนักเรียน” การดำเนินการในลักษณะนี้จะทำให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นและสถานศึกษาเกิดความตระหนักและมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น
ประเด็นที่สาม
ยกเลิกระบบมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษาแบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
และให้ทางโรงเรียนหรือสอนการศึกษาแต่ละแห่งกำหนดระบบมาตรฐานเอง
โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของผู้บริหารโรงเรียน ครู ผู้ปกครอง และนักเรียน วิธีการกำหนดมาตรฐานและการประกันคุณภาพอาจวิธีการเดียวกับระบบโรงเรียนคุณธรรมนั่นคือ
ให้แต่ละภาคส่วนเขียนความคาดหวังในการศึกษา
และความคาดหวังต่อกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้อง
จากนั้นนำมาหาข้อสรุปร่วมกันและกำหนดเป็นธรรมนูญหรือมาตรฐานที่แต่ละกลุ่มจะต้องนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติ
ซึ่งอาจได้อย่างน้อย 5 มาตรฐานที่ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ
คือมาตรฐานของโรงเรียนในภาพรวม มาตรฐานผู้บริหารสถานศึกษา มาตรฐานครู
มาตรฐานนักเรียน และมาตรฐานผู้ปกครอง
ประเด็นที่สี่
การพัฒนาคุณภาพวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพชั้นนำ
ที่ดึงดูดกลุ่มนักเรียนที่มีระดับสติปัญญาสูงเข้ามาเรียน
โดยการให้ทุนและหลักประกันในการประกอบอาชีพจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย
10
ปี
พร้อมกันนั้นก็จำเป็นต้องปฏิรูประบบการสร้างแรงจูงใจทั้งในแง่ค่าตอบแทน
สวัสดิการ และการยกย่องทางสังคม
จัดระบบการบริหารให้ครูมีความก้าวหน้าในอาชีพด้วยการพัฒนาตนเองให้มีความเป็นเลิศตามความถนัดและด้วยวิธีการที่หลากหลายตามบริบท
รวมทั้งต้องมีระเบียบหรือกฎหมายให้ชัดเจนในการห้ามมิให้รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐใช้เวลาของครูไปทำกิจกรรมอื่นที่อยู่นอกเหนือการศึกษา
ครูและโรงเรียนอาจร่วมทำโครงการหรือนโยบายจากหน่วยงานอื่นได้
ต้องเป็นนโยบายหรือโครงการที่เกี่ยวข้องการพัฒนาการศึกษาแลสติปัญญาของเด็ก
และจะต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันอย่างเป็นเอกฉันท์ของกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้จะต้องไม่รบกวนเวลาในการเรียน การสอน
และการเรียนรู้ของเด็ก
ประเด็นที่ห้า
การสร้างกระแสค่านิยมให้ผู้ปกครองตระหนักและเห็นความสำคัญของการศึกษา รวมทั้งการเพิ่มบทบาทของผู้ปกครองในการส่งเสริมการศึกษาของบุตรหลาน
วิธีการสร้างค่านิยมและบทบาทเช่นนี้
อาจใช้วิธีการที่โรงเรียนสาธิตต่างๆใช้คือการนัดผู้ปกครองและเด็กมาพูดคุยร่วมกันกับครูในเรื่องการศึกษาและปัญหาอื่นๆเพื่อช่วยกันหาทางแก้ไขและพัฒนา ขณะเดียวกันก็สร้างแรงดลใจและแรงจูงใจในการศึกษาแก่เด็ก
โดยการพัฒนาครูให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างเป็นตัวแบบที่ดีแก่เด็ก
การนำศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จมาพบปะพูดคุยกับเด็ก การปลูกฝังค่านิยมให้เด็กรักในการแสวงหาความรู้ และการสร้างภาคภูมิใจของการประสบความสำเร็จในการศึกษา
ประเด็นที่หก
การเรียนการสอนจะต้องเปลี่ยนแปลงระบบครูเป็นใหญ่อย่างจริงจัง
โดยให้แต่ละโรงเรียนจัดทำแผนและการดำเนินการลดการเรียนการสอนแบบบรรยายลงอย่างเป็นขั้นตอนและมีเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมกันนั้นก็นำวิธีการเรียนการสอนแบบอื่นๆที่หลากหลายมาใช้ในการเรียนรู้ทั้งภายในห้องเรียน
และนอกห้องเรียนให้มากขึ้น
กระบวนทัศน์ ปรัชญา
และแนวทางในการจัดการการศึกษาไทยจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรอบด้านและถึงรากถึงโคน
มิฉะนั้นคุณภาพการศึกษาในภาพรวมก็ยิ่งตกต่ำลงไปอีก
ซึ่งหมายความว่าคุณภาพปัญญา คุณภาพอารมณ์
และคุณภาพชีวิตของคนในสังคมโดยรวมก็ต่ำลงไปด้วย
ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้งและความรุนแรงทางสังคม
รวมทั้งภาวะถดถอยของการพัฒนาสังคมก็เป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น